ทีมเชฟ อิมแพ็ค คว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในงาน Thailand’s International Culinary Cup 2010

Published : 2010-10-01

(กันยายน 2553) ทีมเชฟ อิมแพ็ค สุดยอด ! คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการแข่งขันพ่อครัวมืออาชีพชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 16 หรือ Thailand Culinary Cup Competition 2010 ตอกย้ำการเป็น เวิล์ด คลาส แคเทอริ่ง เผยยังไม่หยุดยั้งมุ่งมั่นฝึกฝนและจะลงแข่งขันอีกหลายรายการ หวังสร้างชื่อและปูทางสู่การเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำ ที่เพียบพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการชั้นเยี่ยมติดอันอันดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย

นายลอย จูน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ทีมเชฟของ อิมแพ็ค ได้รางวัลคะแนนรวมสูงสุด พร้อมรับถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการแข่งขันพ่อครัวมืออาชีพชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 16 หรือ Thailand Culinary Cup Competition 2010 (TICC) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี ด้านอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์ เครื่องใช้ในโรงแรม ภัตตาคาร การจัดเลี้ยงและบริการนานาชาติ ครั้งที่ 18 หรือ Food and Hotel Thailand 2010  ซึ่งจัดขึ้น ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รางวัลที่ได้ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของหัวหน้าเชฟ และทีมเชฟรุ่นใหม่ของอิมแพ็คทุกคน ที่มุ่งมั่นฝึกฝน พัฒนาทักษะความสามารถ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์เมนูอาหารที่แปลกใหม่ รสชาติเยี่ยม ทำให้ชนะคะแนนคู่แข่งขันรายอื่นๆ ซึ่งมีทั้งเชฟระดับมืออาชีพจากวงการภัตาคาร โรงแรม ชั้นนำระดับ 5 ดาว จากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ฮ่องกง มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ กว่า 436 คน ที่มาร่วมประชันฝีมือ

นอกจาก รางวัลชนะเลิสคะแนนรวมสุงสุดแล้ว ทางเชฟของอิมแพ็คยังคว้ารางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้มาทั้งหมดถึง 11 เหรียญ โดยแบ่งเป็น 1 เหรีญทอง  6 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง และ 2 รางวัลชมเชย ทั้งหมดล้วนเป็นความสำเร็จที่การันตีถึงความเป็น เวิล์ด คลาส แคเทอริ่ง หรือผู้ให้บริการจัดเลี้ยงที่มีเชี่ยวชาญระดับสากลของอิมแพ็คได้เป็นอย่างดี

ด้านเชฟเจเรอมี่ ลิม หัวหน้าเชฟ ของ อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า เป็นเพราะความมุ่งมั่นตั้งใจของเชฟทุกคน ที่ทุ่มเทกับการทำงานเป็นทีม ซึ่งปลูกฝังมาจากวัฒนธรรมองค์กร พันธมิตรสู่ความสำเร็จ หรือ Partnership for Success อีกทั้งการฝึกฝนอย่างหนัก และประสบการณ์ของหัวหน้าเชฟแต่ละท่าน ที่ได้ร่วมถ่ายทอดให้กับเชฟรุ่นใหม่ ทำให้ทีมอิมแพ็คได้รับรางวัลมาถึง 11 เหรียญ

โดยรางวัลเหรียญทองนั้นมาจากการแข่งขันทำ อาหารพาสต้าฟรีสไตล์ ประเภทบุคคล ของ นายนิธิศ  หมวดศรี เชฟรุ่นใหม่ของอิมแพ็ค ซึ่งนอกจากจะได้รางวัลชนะเลิศแล้ว ยังได้คะแนนสูงสุดที่ 92 คะแนน จึงได้รับถ้วยรางวัล Thailand’s International Culinary Cup Best Pasta Free Style Cooking Contest มาครองอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันแกะสลักผักและผลไม้สำหรับการโชว์ ประเภททีม การแกะสลักน้ำแข็งประเภททีมและประเภทเดี่ยว การแข่งขันทำอาหารไทยสมัยใหม่ การแข่งขันทำอาหารฟิวชั่น ฟรีสไตล์ ประเภททีม การแข่งขันโชว์ผลงานศิลป์ที่ทำจากขนม

รวมถึงรางวัลเหรียญทองแดง จากการแข่งขันการแกะสลักน้ำแข็งประเภทบุคคล การแข่งขันทำอาหารทะเลฟรีสไตล์ ประเภทบุคคล การแข่งขันทำขนมหวานสไตล์เอเชีย สำหรับโชว์ และการแข่งขันอาหารประจำชาติของแต่ละชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้รับรางวัล เชื่อว่าจะยิ่งส่งผลให้ อิมแพ็ค เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจจัดเลี้ยงหรือแคเทอริ่ง และได้รับการตอบรับที่ดียิ่งขึ้น

“ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากครั้งหนึ่งในชีวิตของผม เพราะความสำเร็จครั้งนี้ มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาลูกทีมหรือแม้แต่เชฟผู้ช่วยให้เป็นเชฟที่มากความสามารถ เก่งทั้งการปรุง การตกแต่ง และการพัฒนาเมนูต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับในแวดวงเชฟโดยทั่วไป”

สำหรับเป้าหมายต่อไปจากนี้ คือ การร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ เทคนิค และพัฒนาทีมเชฟของอิมแพ็ค ให้มีศักยภาพในการปรุงและการตกแต่งอาหารให้สวยงาม รวมถึงคำนึงสุขภาพของผู้บริโภคให้มากที่สุด ทั้งนี้ ทางเชฟยังมีโปรแกรมลงแข่งขันอีกหลายรายการ เช่น ปลายปีกับการประกวดในงานทีอาร์เอเอฟเอส 2010ที่ ไบเทค บางนา ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีประกวด เพื่อพัฒนาความสามารถ รวมถึงการสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติต่อไป

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าด้วยรางวัลการันตีมากมาย และในอนาคต ทีมเชฟ อิมแพ็ค เหล่านี้ยังไม่หยุดยั้ง ที่จะพัฒนาฝีมือความสามารถ โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นเวิล์ด คลาส แคเทอริ่ง แล้วนั้น จะส่งผลให้เป้าหมายหนึ่งเดียวของ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่จะก้าวเป็น 1 ใน 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำของเอเชีย ที่เพียบพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการคงไม่ไกลเกินรอ แน่นอน