กลไกการผลักดัน Trade Exhibition ไทยสู่สากล ขยายพื้นที่จัดงานรองรับผู้ประกอบการไทย-เทศ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจงานแสดงสินค้าไทย

ปัจจุบันเศรษฐกิจงานจัดแสดงสินค้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ด้วยปัจจัยสนับสนุนการเจริญเติบโตในหลายด้าน อาทิ การเป็นฐานการผลิต และส่งออกสำคัญของภูมิภาค การสนับสนุนจากรัฐบาล สาธารณูปโภครองรับการแสดงสินค้ามาตรฐานระดับโลก และโอกาสทางธุรกิจที่พร้อมเป็นประตูสู่ใจกลางอาเซียน จึงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนต้องเร่งปรับตัว และพัฒนาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สถานที่จัดแสดงสินค้า บริการด้านสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง และการท่องเที่ยว เป็นต้น แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดของการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ก็คือ สถานที่จัดงาน เพราะสถานที่ที่มีความพร้อมทั้งในด้านพื้นที่จัดงาน ทีมงานบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีส่วนอย่างมากในการผลักดันให้งานประสบความสำเร็จ

ประเทศไทย คือ Hub ของธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพโดดเด่น

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่โดดเด่น และต่อเนื่อง เริ่มมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้จัดจำหน่ายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอาเซียนยังเป็นกลุ่มประเทศที่มี GDP ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนมีกำลังในการซื้อ และการผลิตมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนแปลงระบบห่วงโซ่อุปทาน และเทรนด์ของอินทราโลจิสติกส์ ส่งผลให้ตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่สำคัญ และน่าจับตามองอีกหนึ่งตลาดของอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์โลก

ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของ “Local System Integrator (Local SI)” ที่สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ไทย เพราะประเทศไทยมากด้วยกิจการทั้งขนาดเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าขนาดใหญ่ โดยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เข้าไปพัฒนาต่อยอดความรู้ความสามารถให้เพิ่มพูนมากขึ้น ปรับมาตรฐาน และยกระดับสู่มาตรฐานสากล โดยใช้ต้นแบบจากยุโรปมาเป็นแนวทาง พร้อมสร้างเครือข่ายภายในสมาชิกให้มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น

ความสำเร็จของ LogiMAT Intelligent Warehouse เพิ่มพื้นที่จัดงาน 2 เท่า รองรับผู้ประกอบการกว่า 100 แบรนด์ดัง

LogiMAT Intelligent Warehouse คือ งานแสดงสินค้าสุดยอดเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบจัดการ เตรียมกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปีนี้ ตอกย้ำทุกความสำเร็จด้วยการเพิ่มขยายพื้นที่จัดงานเป็น 2 เท่า เพื่อรองรับผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ ขนทัพอุตสาหกรรมต่าง ๆ กว่า 100 แบรนด์ พร้อมด้วยเวทีสัมมนา ลานสาธิตระบบการจัดการคลังสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย งานจัดระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ฮอลล์ 5-6

เป็นอีกหนึ่งงานระดับอาเซียน ที่เรียกได้ว่าเติบโตขึ้นทั้งในด้านจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วม จำนวนแบรนด์ และกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ส่วนหนึ่งด้วยเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น อีกส่วนหนึ่งจากคุณภาพของงาน และการเลือกจัดงานในสถานที่ที่มีความพร้อมอย่างอิมแพ็ค เมืองทองธานี

อิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานที่เนรมิตความสำเร็จให้กับงานแสดงสินค้าระดับโลก

ปัจจัยสำคัญหลักๆ ที่สามารถตอบได้ว่าทำไมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จึงได้เป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้าระดับสากล ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เล็งเห็นถึงศักยภาพการจัดงาน ที่ยิ่งใหญ่อย่างมีมาตรฐาน และสร้างความประทับใจให้ผู้ประกอบการที่เดินทางมาเข้าร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก
1.) พื้นที่จัดงานตอบโจทย์การจัดงานแสดงสินค้า B2B และ B2C ขนาดใหญ่
2.) มีห้องประชุมย่อย (Break Out Room) จำนวนมาก และอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกสบาย เหมาะแก่การทำ Workshop หรือ Confrence ต่อเนื่องจากงานแสดงสินค้าในพื้นที่หลัก และสามารถจัดงานสัมมนาย่อยๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้การจัดงานไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงพื้นที่เดียว
3.) มีโรงแรมระดับ 4 ดาวอย่าง โนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค และโรงแรมไอบิซ อยู่ในพื้นที่ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงานนับพัน
4.) หากเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ผู้จัดงานจะมีการรีเควสขอให้พื้นที่จัดงานทั้งหมดเป็นพื้นที่ปิด (Executive Building) เพื่อความปลอดภัยของบุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมงาน ซึ่งอิมแพ็ค สามารถวางแผนการใช้พื้นที่ปิดได้เป็นอย่างดี
5.) สนับสนุนทุกองค์กรที่สะสมคาร์บอนเครดิต ด้วยการรองรับเอกสารการจัดประชุมแบบยั่งยืน เป็นเวลากว่า 5 ปีมาแล้ว ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ใส่ใจโลก และมีแพ็คเกจงานประชุมแบบรักษ์โลก (Green Meeting) ให้บริการแก่บริษัท องค์กร ที่มีนโนบายสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน หากหน่วยงานใดมีการสะสมคาร์บอนเครดิตอยู่ อิมแพ็คก็สามารถออกรายงานการใช้พลังงาน และการลดพลังงานจากการจัดงานประชุมได้ เพื่อให้หน่วยงานเหล่านั้นนำไปยื่นขอสะสมคาร์บอนเครดิตเพิ่มเติมได้

Carbon Credit

เครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้ คือ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เครื่องมือการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตที่จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่งแต่ละธุรกิจอาจมีธุรกิจที่บริหารจัดการให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าเป้าหมายจนคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิตออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถจำหน่ายให้แก่ธุรกิจหรือหน่วยงานที่ในกระบวนการทำงานยังมีส่วนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกินกว่าที่ควบคุม ธุรกิจเหล่านี้สามารถมาซื้อคาร์บอนเครดิตในตลาดคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยได้

หากคุณคือ ผู้จัดงาน Trade Exhibition ไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศ หรือต่างชาติ ที่กำลังวางแผนจัดงาน และกำลังหาสถานที่ที่ตอบโจทย์ในทุกเรื่องด้านงานแสดงสินค้า และการประชุม และมีทีมงานบริการอย่างมืออาชีพ ที่สำคัญคืออยู่ในงบประมาณที่จับต้องได้ และการจัดงานที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะช่วยให้งานของคุณสำเร็จได้ง่ายขึ้น ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมงานอิมแพ็คได้ที่ +66 2 833 5252 หรือเข้าชมภาพสถานที่จัดงานได้ที่ www.impact.co.th